จากเกษตรกรสู่ผู้ขายสินค้าเกษตรออนไลน์จะเริ่มอย่างไร

ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าออนไลน์เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะช่วงโรคระบาดโควิด19 อีกทั้งการซื้อขายออนไลน์มีความง่าย สะดวกสบาย ลดต้นทุนทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ จะเห็นได้ว่าสินค้าหลายประเภทเริ่มเข้าสู่ระบบการขายของออนไลน์อย่างเต็มตัว รวมถึงสินค้าทางการเกษตร ด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เกษตรกรไทยเริ่มปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีมากหากเกษตรกรรายได้ปรับตัวได้ทัน สามารถนำสินค้าของตัวเองเข้าสู่ตลาดออนไลน์ได้ เนื่องจากตลาดออนไลน์มีข้อดีอยู่หลายประการด้วยกัน อาทิ ตัดเรื่องพ่อค้าคนกลาง สามารถขยายตลาดสินค้าได้กว้างขึ้น เกษตรกรออนไลน์เข้าใจพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มเป้าหมายของตัวเองได้โดยตรง ทำให้ง่ายเต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในส่วนของภาครัฐเองก็สนับเกษตรกรออนล์มากขึ้นเช่นกัน จะเห็นว่ามีหลายภาคส่วนที่เข้ามามีบทบาท ส่งเสริม ให้ความรู้และอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรมากขึ้น เช่น

สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) จัดกิจกรรมอบรมเกษตรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) เกี่ยวกับการขายผ่านเว็บไซต์ เพื่อเปิดมิติใหม่ให้สินค้าเกษตรไทยบนโลกออนไลน์

 นอกจากนี้ส่วนของเอกชน มูลนิธิเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม (ประเทศไทย) จัดกิจกรรมอบรมการให้ความรู้เกี่วกับการขายสินค้าเกษตรออนไลน์ให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 50 จังหวัด โดยเล็งเห็นว่าปัจจุบันการขายสินค้าเกษตรออนไลน์เป็นช่องทางและโอกาสทางการตลาดที่สำคัญในการขยายฐานลูกค้าจากภายในประเทศสู่ลูกค้าต่างประเทศ เชื่อมโยงการค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ช (E-Commerce) โดยเน้นส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรรายย่อย มีช่องทางเลือกในการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและแปรรูป พัฒนาช่องทางการค้าขายผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0

การปรับตัวเป็นเกษตรกรออนไลน์ แนะนำว่าต้องเริ่มจากการหาข้อมูลความรู้ ซึ่งก็มีหน่วยงานต่าง ๆ ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลืออยู่มากมายทีเดียว ยิ่งสมัยนี้การเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อมีความรู้ความเข้าใจเพียงพอ จากนั้นก็มาดูว่าเราต้องการจะขายอะไร ใครคือกลุ่มเป้าหมาย ต่อด้วยการมองหาช่องทางการขายที่เหมาะสมกับสินค้าของตัวเอง โดยอาจเริ่มจากการเป็นรายย่อยก่อน ค้าขายกันเองแบบเปิดแฟนเพจขึ้นมาง่าย ๆ พอขายดีมาก ๆ เข้า ก็ค่อยขยับไปเป็นเว็บไซต์ โดยสมัครกับเว็บดัง ๆ ที่น่าเชื่อถือ เป็นลักษณะ Market Place เพื่อแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักแก่ตลาดเหมือนกับการนำสินค้าขึ้นห้าง ซึ่งมีข้อดีคือ คุณไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการบริหาร ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงสินค้าของคุณได้มากกว่า จนเมื่อมีฐานลูกค้ามากพอจึงค่อยสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เมื่อถึงขั้นตอนนี้สินค้าเกษตรของคุณก็จะมีหน้าร้านของตัวเอง ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถต่อยอด และขยับขยายไปได้กว้างไกล พอจะมองเห็นภาพการเป็นเกษตรกรออนไลน์กับบ้างแล้วใช่ไหมคะ

เมื่อมีร้านแล้วก็ต้องไม่ลืมใส่ใจสินค้าของเราด้วย การขายของออนไลน์ไม่ใช่แค่การซื้อของ แต่เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้ออีกครั้ง ดังนั้น สิ่งที่เกษตรกรออนไลน์จะต้องให้ความสำคัญคือ

1. หาจุดเด่นของสินค้าว่าคืออะไร เช่นถ้ามีข้าวกล้องอยู่ 10 เจ้า สินค้าเราโดดเด่นแตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร

2. บรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ และช่วยสร้างมูลค่า

3. รูปภาพที่โพสต์ขายต้องสวย และดูน่าสนใจ

4. รายละเอียดสินค้าต้องชัดเจน เช่น น้ำหนักเท่าไหร่, ไซส์อะไร, หมายเลข อย.ฯลฯ

5. มีข้อความบรรยายสินค้าที่เหมาะสม เช่น ผักชนิดนี้มีสารอาหารอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง, หรือเป็นทุเรียนที่ปลูกในดินภูเขาไฟ เป็นต้น

6. สร้างเรื่องราวให้ดูน่าสนใจและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ถ้าเป็นพืชผักอินทรีย์ที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่คนรักสุขภาพ ก็อาจจะเป็นเรื่องราว เช่น การปลูกชาที่เป็นออแกนิกส์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีกรรมวิธีการผลิตที่ใส่ใจ เก็บมาตาก และบดด้วยมือ เป็นต้น

แค่เท่านี้ทุกคนคงพอทราบแนวทางกันการขายออนไลน์แล้วใช่ไหมคะ ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะสามารถปรับตัว และเริ่มต้นได้ด้วยตัวเอง ขอเสนอทางลัดว่า ต้องมองหาผู้เชี่ยวชาญ หรือเครื่องมือดี ๆ มาเป็นผู้ช่วยอย่างwww.ouikum.com แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อทุกภาคส่วนของเกษตรกรรม ซึ่งรวมถึงแหล่งทำการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรขนาดใหญ่ด้วย บอกเลยว่าที่นี่เขาเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมหมด และก็ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่คลิ๊กเข้าไปสมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถจะเป็นเกษตรกรออนไลน์และทำการซื้อขายสินค้าโดยตรงกับผู้บริโภคได้แล้ว ลองเข้าไปสมัครใช้บริการดูนะคะ


ยอดผู้เข้าชมเว็บไซด์ Web Hits