หลายคนมีคำถามว่าการทำเกษตรในยุค Thailand 4.0 จะมีการปรับใช้กับการทำการเกษตรอย่างไรบ้าง เพราะแน่นอนว่าในยุคนี้ เราต้องนำสื่อและเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามาช่วยในการทำการเกษตร เป็นการทำการเกษตรแบบ Smart farmer ปรับเปลี่ยนจากการทำการเกษตรในแบบเดิมๆที่เน้นการปลูกในปริมาณมาก มาเป็นการปลูกที่พอเหมาะกับกำลังของตนเอง และพอดีกับความต้องการของผู้บริโภค เป็นการปลูกแบบใช้การตลาดนำการผลิต ทั้งนี้ก็เป็นการทำการเกษตรที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำการเกษตร นั่นเอง
การปรับและพัฒนาสินค้า เข้าสู่ตลาดให้เป็นที่นิยมในยุค Thailand 4.0 อย่างไร
ปรับเปลี่ยนจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวจำนวนมากเพื่อขายส่งโรงงาน มาเป็นการทำตลาดของตัวเองโดยผ่านช่องทาง Social media หรือ Website สร้างเรื่องราวจากสิ่งที่ทำ แล้วนำมาเผยแพร่ออกไปสู่ผู้บริโภค ให้เห็นขั้นตอนตั้งแต่การเริ่มผลิต เก็บเกี่ยว แพคบรรจุ มีการวางแผนการผลิตให้เหมาะกับฤดูกาลและตรงกับความต้องการขอลูกค้าในพื้นที่ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย สร้างตราสินค้า สร้างระบบการค้นหาและจัดส่ง จนกระทั่งส่งสินค้าให้ถึงมือของผู้บริโภคโดยตรง ทั้งหมดนี้ก็เป็นการปรับเปลี่ยนจากการทำการเกษตรยุคเก่า มาเป็นเกษตรกรในยุค Thailand 4.0 นั่นเอง
คุณลักษณะอะไรบ้าง ที่ทำให้โดดเด่นและได้เปรียบในยุคนี้
สิ่งที่จะทำให้ได้เปรียบในยุคนี้ก็คือ ช่องทางการสื่อสารที่ส่งออกไปหาผู้บริโภคได้โดยตรง ต่างจากสมัยที่ต้องอาศัยสื่อจากวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะปัจจุบันเรามีเครื่องมือที่หลากหลาย อาทิเช่น Social media ,Website ,Youtube เป็นต้น ที่สามารถเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานและผลผลิตภายในไร่ออกไปสู่ผู้บริโภค ให้สามารถเชื่อมต่อกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยพ่อค้าคนกลางเหมือนเช่นในอดีต
การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับ Thailand 4.0 ได้อย่างไร
เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงนั้นต้องเริ่มจากที่ตัวเราให้มีความพอดีก่อน เริ่มทำจากเล็กไปใหญ่ ค่อย ๆ เรียนรู้ ลงมือทำ ปรับปรุง แก้ไขไปพร้อม ๆ กัน สร้างแบรนด์ สร้างระบบ ทีละก้าว เป็นก้าวเล็กที่มั่นคงและเดินไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างไม่หยุด เพียงเท่านี้ ทุก ๆ สิ่งที่ทำก็จะพอดีและพอเพียงสำหรับตัวเราค่ะ
